โค้ด กีอัส ดำเนินเรื่องราวอยู่บนโลกที่มีประวัติศาสตร์ที่แตกต่างออกไป กล่าวคือ สาธารณรัฐโรมันในสมัยของจูเลียส ซีซาร์ในโลกของโค้ด กีอัส สามารถยึดและปกครองเกาะอังกฤษสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ในรัชสมัยจักรพรรดิเอากุสตุส โรมันก็ต้องเสียเกาะอังกฤษไปเมื่ออัลวินที่ 1 แห่งชาวเคลต์ ได้นำไพร่พลเข้าปลดแอกเกาะอังกฤษจากการปกครองของโรมันได้สำเร็จ อัลวินได้ขึ้นเป็นกษัตริย์คนแรกของชาวเคลต์ และถือเป็นจุดเริ่มต้นศักราช a.t.b.
ถัดจากนั้นจนมาถึงศตวรรษที่ 17 รัชสมัยพระนางเจ้าเอลิซาเบธที่ 1 ผู้ซึ่งครองพระองค์เป็นโสดกลับให้ประสูติกาลพระโอรส ผู้ต้องสงใสว่าเป็นบิดามีอยู่สามคนคือ เซอร์โรเบิร์ต ดัดลีย์ เอิร์ลที่ 1 แห่งเลสเตอร์, เซอร์โรเบิร์ต เดเวอรู เอิร์ลที่ 2 แห่งเอสเซกซ์ และเซอร์คาร์ล ดยุกแห่งบริทาเนีย ในเวลาต่อมาพระโอรสองค์นั้นก็ได้ขึ้นครองราชย์เป็น พระเจ้าเฮนรี่ที่ 9 แห่งอังกฤษและเป็นการเปิดฉากยุคทองแห่งราชวงศ์ทิวดอร์
ต่อมาในปี 1776 ฝรั่งเศสเป็นผู้สนับสนุนแก่อาณานิคมอเมริกาในการก่อกบฏของจอร์จ วอชิงตันเพื่อประกาศเอกราชจากอังกฤษ แต่ เซอร์ ริคาร์โด ดยุกแห่งบริทาเนีย ได้ติดสินบนแก่เบนจามิน แฟรงคลิน ให้ยุติรับการสนับสนุนดังกล่าวแลกกับจะได้ยศเป็นเอิร์ลปกครองนิคมอเมริกา ต่อมา ทหารอังกฤษเข้าล้อมปิดล้อมยอร์กทาวน์ ซึ่งจอร์จ วอชิงตัน แม่ทัพของกองทัพภาคพื้นทวีปได้เสียชีวิตในศึกครั้งนี้ ทำให้อเมริกาขาดผู้นำในการเรียกร้องอิสรภาพจากอังกฤษ
ปลายศตวรรษ ที่ 18 ทวีปยุโรปเข้าสู่ยุคแห่งปฏิวัติ การปฏิวัติล้มล้างระบอบกษัตริย์เกิดขึ้นในทุกชาติยกเว้นอังกฤษในการปกครองของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 10 ในช่วงการปฏิวัติฝรั่งเศส นโปเลียน โบนาปาร์ต ทำสงครามยึดครองยุโรป นโปเลียนมีชัยในยุทธนาวีที่ตราฟัลการ์ กองทัพของนโปเลียนยกพลขึ้นรุกรานเกาะอังกฤษ ต่อมาในปี 1807 พระนางเจ้าเอลิซาเบธที่สาม ถูกทหารอาสาฝ่ายสาธารณรัฐนิยมจับกุมได้ในเอดินบะระและทรงถูกบังคับให้สละราชสมบัติ ถือเป็นจุดสิ้นสุดของระบอบกษัตริย์ในอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ดยุกแห่งบริทาเนียพร้อมกับเซอร์ ริชาร์ด เฮกเตอร์ ไนท์ออฟวัน ได้พระนางเจ้าเอลิซาเบธที่สามและผู้ติดตามไปสร้างประเทศใหม่ที่แผ่นดินอเมริกา ในขณะที่หมู่เกาะอังกฤษถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของอียู ต่อมาในปี a.t.b. 1813 พระนางเจ้าเอลิซาเบธที่สาม ได้ประกาศให้สวามีคือ เซอร์ ริคาร์โด ดยุกแห่งบริทาเนีย ขึ้นครองบัลลังก์ต่อไปหลังการสวรรคตของพระนาง
ภาคการปฏิวัติของลูลูช
โลกถูกแบ่งออกเป็นสามขั้วอำนาจหลัก ได้แก่จักรวรรดิบริทาอันศักดิ์สิทธิ์, สหพันธ์จีน(ภายหลังกลายเป็นสหรัฐจีน) และ สหภาพยุโรป (หรือสหพันธ์ยุโรป​) เรื่องราวเริ่มดำเนินขึ้นเมื่อบริทาเนียใช้ "อัศวินหุ้มเกราะอันโนมัติ" หรือที่เรียกว่า ไนท์แมร์เฟรม เข้ายึดครองประเทศญี่ปุ่นในปี 2010 และตั้งญี่ปุ่นเป็น "แอเรีย 11" และพลเมืองญี่ปุ่นถูกเรียกว่า "อีเลฟเว่น"
ลูลูช แลมเพอรูจ เป็นเจ้าชายบริทาเนียซึ่งถูกเนรเทศมายังญี่ปุ่นเพื่อเป็นเครื่องต่อรองทางการเมือง เขาถูกส่งไปพร้อมกับน้องสาว นันนาลี วี บริทาเนีย โดยบัญชาของพระบิดา จักรพรรดิชาลส์ ซี บริทาเนีย ภายหลังที่แม่ของพวกเขา พระนางมารีแอน วี บริทาเนีย ถูกลอบสังหารในวังหลวง ซึ่งนันนาลีที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ได้รับการกระทบกระเทือนทางจิตใจจนดวงตามิอาจมองเห็นได้และไม่สามารถเดินได้ ซึ่งกลายเป็นภาระของลูลูชที่จะต้องคอยดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวของเขาแม้แต่ในช่วงที่ญี่ปุ่นตกอยู่ในภาวะสงครามกับบริทาเนีย ภายหลังสงครามสิ้นสุด ญี่ปุ่นเต็มไปด้วยซากปรักหักพัง เขาก็ได้สาบานกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นของเขา สุซาคุ คุรุรุกิ ว่าซักวันหนึ่งจะล้มล้างบริทาเนีย ในขณะที่เชื้อพระวงศ์องค์อื่นๆคิดว่าลูลูชและน้องสาวตายไปในสงครามครั้งนั้น
เจ็ดปีให้หลัง ลูลูชเป็นนักเรียนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมแอชฟอร์ดในแอเรีย 11 โดยใช้ชื่อว่า ลูลูช แลมเพอรูจ โดยอยู่ในอุปการะของตระกูลแอชฟอร์ด ตระกูลขุนนางของบริทาเนีย จนวันหนึ่ง ลูลูชเข้าไปติดพันในที่เกิดเหตุก่อการร้าย และได้พบกับผู้หญิงที่ชื่อ ซีทู (C.C.) ซึ่งเข้ามาช่วยชีวิตเขาจากทหารบริทาเนีย เธอทำสัญญากับลูลูชโดยมอบพลังที่มีชื่อว่ากีอัส หรือที่เรียกว่า "พลังแห่งราชันย์" เป็นพลังที่เขาสามารถสั่งและบงการทุกคนให้ทำตามคำสั่งของเขา แม้กระทั่งสั่งให้ตาย แต่มีเงื่อนไขว่าจะฝ่ายตรงข้ามจะต้องต้องสบตากับลูลูชเท่านั้นจึงจะใช้กีอัสได้ ลูลูชตัดสินใจใช้พลังกีอัสในการทำลายจักรวรรดิบริทาเนีย และสร้างโลกที่อ่อนโยนอย่างที่นันนาลี่ต้องการ โดยเขากลายเป็นบุรุษสามหน้ากากที่ใช้ชื่อว่า "ซีโร่" และเป็นผู้นำขององค์กรติดอาวุธที่เรียกว่า "ภาคีอัศวินดำ" ขึ้นมาต่อกรกับจักรวรรดิบริทาเนีย ซูซาคุเองก็เข้าเป็นอัศวินของบริทาเนีย และมีเหตุให้ทั้งสองต้องกลายมาเป็นศัตรูกัน
อากิโตะผู้ถูกเนรเทศ
โค้ด กีอัส อากิโตะผู้ถูกเนรเทศ เป็นภาคเสริมแบบฉายโรง มีทั้งหมด 5 ตอน เนื้อเรื่องในภาคนี้อยู่ในระหว่างโค้ดกีอัสในภาคแรกและภาค R2 เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มชาวญี่ปุ่นนาม ฮีวงะ อากิโตะ ซึ่งเป็นทหารในกองทัพสหพันธ์ยุโรปและทำสงครามกับยูโรบริทาเนีย ในภาคนี้ลูลูชที่สูญเสียความทรงจำได้ปรากฏตัวในชื่อ จูเลียส คิงส์เลย์ เสนาธิการที่จักรพรรดิชาลส์ส่งมาบัญชากองทัพยูโรบริทาเนีย โดยมีซูซาคุในฐานะอัศวินแห่งราวด์คอยตามประกบลูลูช

ลูลูช แลมเพอรูจ


นักเรียน

ลูลูช แลมเพอรูจ เป็นนักเรียมมัธยมปลาย อายุ 17 ปี เรียนที่แอชฟอร์ด จริง ๆ แล้วเขาเป็นลูกของจักรพรรดิแห่งบริแทนเนีย มีชื่อจริงคือ ลูลูช วี บริแทนเนีย รัชทายาทลำดับที่ 17 เมื่อตอนที่เขาอายุ 10 ขวบนั้น แม่ของเขาได้ถูกฆ่าตาย โดยคนในเชื้อพระวงศ์เชื่อว่าเป็นฝีมือของพวกก่อการร้าย แต่พ่อของเขานิ่งเฉย เขาจึงสาบานที่จะทำลายล้างบริแทนเนีย ภายหลังลูลูชและน้องสาวได้ถูกส่งตัวไปที่ญี่ปุ่นเพื่อเป็นตัวประกัน ในขณะนั้นพวกเขาได้พักที่บ้านของรัฐมนตรี เก็มบุ คุรุรุกิ ทำให้ลูลูชได้เป็นเพื่อนกับลูกชายของรัฐมนตรีที่ชื่อ สุซากุ คุรุรุกิ การที่เขาใช้ชื่อปลอมเพราะไม่อยากถูกส่งกลับที่จักรวรรดิเพื่อถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองเหมือนตอนที่โดนส่งมาเป็นตัวประกันที่ญี่ปุ่น เจ็ดปีหลังจากนั้น เมื่อเขาได้พลัง กีอัส มาจากองค์หญิงองค์ที่ 2 ที่ ชื่อว่า "ซีทู" เขาก็ได้รวมตัวกับกลุ่มกบฏกลุ่มหนึ่ง ก่อตั้งภาคีอัศวินดำขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับบริแทนเนีย ล้างแค้นให้แม่ของเขา และสร้างโลกที่อ่อนโยนที่เขาและนานาลี่น้องสาวจะอยู่ได้อย่างสงบสุข โดยเขาได้เป็นหัวหน้ากลุ่มใช้แฝงนามว่า ซีโร่ (ZERO) และปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากาก เพื่อไม่ให้คนในกลุ่มรู้ว่าเขาเป็นใคร

คุรุรุกิ สุซาคุ


ทหาร

คุรุรุกิ สุซาคุ เป็นเพื่อนสมัยเด็กของลูลูช และหนึ่งในคนที่รู้ว่าลูลูชแท้จริงเป็นใคร หลังจากสงคราม สุซาคุได้เข้าเป็นทหารของบริแทนเนีย การที่สุซากุเข้าเป็นทหารทำให้เขาเป็นประชากรบริแทนเนียผู้ทรงเกียรติ และได้รับสิทธิพิเศษในการขับหุ่นไนท์แมร์เฟรมที่ให้สิทธิเฉพาะชาวบริแทนเนียเท่านั้น โดยเป็นคนขับไนท์แมร์เฟรม รุ่นที่ 7 แลนสลอต (Lancelot) ซึ่งเป็นเบต้าที่ยังไม่สมบูรณ์ ในภายหลัง เขาได้เข้าเรียนที่แอชฟอร์ดตามคำสั่งของเจ้าหญิงยูเฟเมีย สุซาคุไม่เชื่อในการกระทำที่ผิด และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของซีโร่ เขาต้องการจะเปลี่ยนบริแทนเนียจากภายใน

ซีทู


-

ซีทู ผู้หญิงปริศนาผู้เป็นอมตะ ผู้มอบพลังกีอัสให้กับลูลูซ เธอเรียกตัวเองว่า ผู้สมรู้ร่วมคิด กับลูลูช คอยช่วยเหลือลูลูชในยามคับขันเสมอ ที่หน้าผากของเธอมีโค้ดสีแดงอยู่ด้วยและดูเหมือนเธอจะรู้จักกับ มารีแอน หรือแม่ของลูลูชเป็นการส่วนตัว เธอมีดวงตาสีเหลีองอำพันและมีผมยาวสีเขียวใบไม้ผลิ ชอบกินพิซซ่าเป็นชีวิตจิตใจ เคยเกือบโดนจับเพราะพิซซ่า(อ้างอิงจากตอนที่5ซีทูมาโรงเรียนของลูลุสเพราะอยากกินพิซซ่ายัก) และซีทูเธอมีความปรารถนาที่แท้จริงอยู่คือทำให้ใครชักคนที่สามารถฆ่าเธอได้แต่อย่างนั้นสิ่งที่ซีทูปรารถนาจริงๆนั้นไม่ใช่ความตายแต่เป็นความรักที่แท้จริง มีแต่ลูลูชเท่านั้นที่รู้ความปรารถนานี้ ถึงซีทูจะแสดงความเย็นชาใส่ลูลูชแต่ซีทูก็ห่วงลูลูชจากใจจริง ในตอนจบของภาค R1 ซีทูได้บอกกับลูลูชว่า เอาชนะให้ได้นะลูลูช เอาชนะอดีตของตัวเอง และก็ผลของการกระทำอันนั้น จากนั้นซีทูก็จูบกับลูลูช ทำให้ลูลูชอึ้ง ลูลูชได้กล่าวกับซีทูว่า อย่าตายนะ แสดงว่าถึงลูลูชรู้อยู่แล้วว่าซีทูเป็นอมตะแต่ลูลูชก็ไม่อยากให้ซีทูตาย มันแสดงให้เห็นถึงความผูกพันทั้งสองที่เคยผ่านอะไรมาด้วยกัน

คาเรน สแทดท์เฟลด์


ทหาร

คาเรน สแทดท์เฟลด์ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โคซุกิ คาเรน เธอเป็นลูกครึ่งบริแทนเนียและอีเลฟเว่น เป็นนักเรียนในโรงเรียนแอชฟอร์ด และเป็นหนึ่งในกลุ่มกบฏโดยใช้ชื่อแฝง ปัจจุบันสังกัดภาคีอัศวินดำ และอยู่ใต้การบังคับบัญชาของซีโร่ เป็นหน่วยอิสระที่ขึ้นตรงต่อซีโร่เท่านั้น เป็นนักบินประจำไนท์แมร์รุ่นพิเศษ กุเรนนิชิกิ ที่เป็นไนท์แมร์แข็งแกร่งที่สุดในภาคีอัศวินดำ หลังจากสงคราม พ่อของเธอซึ่งเป็นชาวบริแทนเนียได้แต่งงานใหม่กับคนบริแทนเนีย และปล่อยให้ผู้เป็นแม่ของคาเรน ซึ่งเป็นชาวอีเลฟเว่น ทำงานในบ้านในฐานะคนรับใช้ ภายหลัง แม่ของเธอได้เข้าไปใช้ยาเสพติดจนมีโทษจำคุก เธอสัญญาว่าจะช่วยแม่ของเธอมาให้ได้ คาเรน สแทดท์เฟลด์ ชอบ ลูลูชก่อนที่จะจากกันคาเรน สแทดท์เฟลด์ก็มาจูบกับลูลูช

นานาลี่ แลมเพอรูจ


นักเรียน

นานาลี่ แลมเพอรูจ น้องสาวแท้ๆของลูลูช เดิมชื่อ นานาลี่ วี บริแทนเนีย เธอได้รับบาดเจ็บในเหตุการณ์ที่พระนางมาเรียน์แอน แม่ของลูลูชถูกลอบสังหาร จนทำให้เธอตาบอดและขาพิการนับแต่นั้นมา ลูลูชเชื่อว่าสักวันน้องสาวของเขาจะต้องมองเห็นอีกครั้งหนึ่ง เธอเป็นที่รู้จักดีในกลุ่มเพื่อนๆของลูลูช อีกทั้งยังสนิทกับสุซาคุตั้งแต่เด็กอีกด้วย นานาลี่มีจิตใจดีและเรียกชาวอีเลฟเว่นว่าชาวญี่ปุ่น เธอเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ลูลูชต้องการจะต่อสู้

โรโล่ แลมเพอลูช


มือสังหาร

โรโล่ แลมเพอลูช ถูกแนะนำในซีซั่น 2 ในฐานะมือสังหารที่แสดงเป็นน้องชายของลูลูซเพื่อเฝ้าติดตามลูลูซที่ถูกบันทึกความทรงจำใหม่ในตอนจบซีซั่นแรก โรโล่เป็นนักบินของวินเซนต์ที่มีร่างต้นแบบจากแลนสลอตน์ของซึซาคุและมีพลังกีอัสที่ตาข้างขวาที่สามารถหยุดการรับรู้ประสาททั้ง 5 ของคนที่อยู่ทั่วทั้งอาณาเขตของเขา แต่อย่างไรก็ตามพลังของเขาก็มีข้อจำกัดคือเมื่อใช้จะทำให้หัวใจหยุดเต้นขณะใช้กีอัส เขาถูกใช้เป็นเครื่องมือของลูลูซในการทำงานสนับสนุนภาคีอัศวินดำและเชื่อใจลูลูซอย่างสนิทใจว่าเขาเป็นครอบครัวของลูลูซ สมบัติล้ำค่าที่สุดของเขาก็คือล็อกเก๊ตที่ลูลูซให้เป็นของขวัญวันเกิดในขณะลูลูซคิดว่าโรโล่เป็นน้องชายจริง ๆ

มิเรย์ แอชฟอร์ด


นักเรียน

มิเรย์ แอชฟอร์ด หลานสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนแอชฟอร์ด ลูเบ็น เค แอชฟอร์ด และเป็นประธานสภานักเรียนโรงเรียนแอชฟอร์ด มิเรย์เป็นคนที่ชอบหยอกล้อเชอร์ลี่และกระตือรือร้นมากในการหาจุดอ่อนหรือความลับของลูลูซ ซึ่งเห็นได้ชัดมากเมื่อมิเรย์ได้ยินว่าอาร์เธอร์ได้ขโมยของสำคัญของลูลูซไปเธอถึงกับประกาศให้นักเรียนทั่วทั้งโรงเรียนช่วยกันไล่จับและเอาส่งให้เธอ แต่จริง ๆ แล้วเธอแอบมีใจให้กับลูลูซแต่เธอก็ต้องหักห้ามใจเพื่อที่จะฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ของตระกูลแอชฟอร์ดขึ้นมาอีกครั้งโดยการแต่งงานกับขุนนางชั้นสูง

ริวัล คาลดีมอนด์


นักเรียน

ริวัล คาลดีมอนด์ 1 ในเพื่อนของลูลูซ บ่อยครั้งที่เขามักเป็นคนขับมอเตอร์ไซด์พาลูลูซไปเล่นพนันเกมส์หมากรุกกินเงิน เขาทำงานชั่วคราวเป็นบาร์เทนเดอร์เป็นพนักงานเสริฟเพื่อประชดต่อความรักที่เขามีให้กับมิลลี่ แอชฟอร์ดโดยเฉพาะตอนที่เธอบอกว่าจะไปดูตัวแต่งงานตามคำสั่งของแม่ สิ่งที่แสดงให้เห็นในซีรีส์และในดีวีดีเอ็กซ์คูซีพโบนัสคือริวัลเป็นเพื่อนกับสุซาคุได้อย่างรวดเร็วมากหลังจากที่สุซาคุได้เข้าเป็นสมาชิกสภานักเรียนตามคำขอของลูลูซ นามสกุลที่แท้จริงของริวัลไม่ใช่คาลดีมอนด์ แต่นั้นเป็นนามสกุลของแม่เขาและเขาได้ใช้มันหลังจากที่พ่อแม่ของเขาหย่ากัน เขาเกิดที่บริเวณที่ราบสูงในเขตแคลิฟอร์เนีย ริวัลปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในภาพงานแต่งงานของโอกิกับวิเลตตา

ชาร์ลส์ ซี บริแทนเนีย


จักรพรรดิ

นีนา ไอสไตน์ ถูกแนะนำครั้งแรกในฐานะสมาชิกสภานักเรียนโรงเรียนแอซฟอร์ดที่ชอบอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก นีน่าแสดงให้เห็นถึงอาการของโรคซิโนโฟบิก (โรคกลัวชาวต่างชาติ) อย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะกับชาวอีเลฟเว่น เมื่อสุซาคุเดินทางมาเรียนที่โรงเรียน ต่อมาเธอคลั่งไคล้ในตัวขององค์หญิงลำดับที่ 3 ยูเฟย์เมียร์ หลังจากที่ช่วยเธอระหว่างเป็นตัวประกันที่กำลังจะโดนทำร้ายที่โรงแรมทะเลสาบคาวากุจิ ลอยด์ แอสพรุนด์สนใจงานวิจัยส่วนตัวของนีน่าที่จะทำให้ใช้ยูเรเนียม-235เป็นเชื้อเพลิงจึงได้หาซากุระไดต์มาให้เพื่อการวิจัยต่อไป ต่อมาเมื่อยูเฟย์เมียร์ได้สิ้นพระชนม์ นีน่าเริ่มมีอารมณ์แปรปวนไม่อยู่กับร่องกับรอยและคิดเพียงอย่างเดียวคือต้องฆ่าซีโร่เพื่อแก้แค้นให้องค์หญิง เธอทำการติดเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ต้นแบบให้กับไนท์แมร์เฟรมแกนีมีดของโรงเรียนแอซฟอร์ด หากระเบิดจะมีรัศมีการทำลายล้างได้ทั้งเขตโตเกียวแต่ผลก็คือไม่ระเบิด นีน่าได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำงานจากชไนล์เซลโดยให้เป็นหัวหน้าทีมวิจัยของเขาที่ดัลลัสในเขตเท็กซัส ชไนล์เซลโน้มน้ามเธอให้ทำงานกับเขาเพื่อยูเฟย์เมียร์เพื่อแก้แค้นซีโร่ที่เธอไม่เคยลืม เธอได้คิดค้นระเบิดภายใต้รหัสที่ชื่อว่า "เฟรย่า" (Field Limitary Effective Implosion Armament ตัวย่อ F.L.E.I.J.A.) ซึ่งมีรัศมีการทำลายล้างสูง ระเบิดลูกแรกถูกใช้ที่โตเกียวมีรัศมีการทำลายล้างถึง 8 กิโลเมตรและในเวลาต่อมาเมื่อทำการปลดลิมิตออก ลูกที่ 2 จึงถูกใช้ที่นครหลวงเพนดราก้อน เมืองหลวงของบริแทนเนียทำให้มีรัศมีการทำลายล้างเพิ่มขึ้นมากถึง 100 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามแม้ในตอนแรกเธอดีใจมากที่ความหวังของเธอที่จะได้แก้แค้นซีโร่กำลังจะเป็นจริงแต่เธอก็ต้องตกใจกับอำนาจการทำลายล้างจากผลงานอาวุธของเธอที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ถึง 35 ล้านคนในเขตอาศัยของโตเกียวต้องตายทั้งหมด ลอยด์ได้บอกนีน่าว่าหากเธอรู้สึกผิดในการกระทำให้เลิกเป็นนักวิทยาศาสตร์ซะหากไม่ก็จงเป็นนักวิทยาศาสตร์และวิจัยต่อไป ชาร์ลส์ ซี บริแทนเนีย (ญี่ปุ่น: シャルル・ジ・ブリタニア โรมาจิ: Sharuru ji Buritania; ทับศัพท์: อังกฤษ: Charles zi Britannia) ผู้ถูกกล่าวถึงในฐานะจักรพรรดิแห่งบริแทนเนีย (ญี่ปุ่น: ブリタニア皇帝 โรมาจิ: Buritania Kōtei) ในช่วงต้นเรื่อง เกิดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ปี a.t.b. 1985[1] เป็นพ่อของลูลูชและจักรพรรดิลำดับที่ 98 แห่งจักรวรรดิศักดิ์สิทธิ์บริแทนเนีย และเป็นตัวละครหลักฝ่ายร้ายของเรื่องนี้ เขามีนางสนมหลากเชื้อชาติถึง 108 คน[2] ด้วยความที่เป็นผู้ยึดมั่นในแนวคิดเรื่องสังคมตามแนวทางทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน (Social Darwinism) เขาจึงมีทัศนะต่อความเสมอภาคว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายที่จะต้องกำจัดให้สิ้น และเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว เขาจึงส่งเสริมความขัดแย้งทางชนชั้นและการขยายอำนาจทางการทหารเพื่อดำรงไว้ซึ่งวิวัฒนาการและความก้าวหน้าของสังคม ในวัยเยาว์จักรพรรดิชาร์ลส์ได้ประสบกับความเลวร้ายจากการสังหารกันเองของเชื้อพระวงศ์เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ เขาจึงได้สัญญากับวีทู (V.V.) ผู้เป็นพี่ชายว่าจะสร้างโลกใหม่ที่ปราศจากการโกหกหลอกลวงขึ้น ภายหลังเมื่อชาร์ลส์ได้มารีแอนน์และซีทู (C.C.) มาเป็นพันธมิตร เขาจึงได้สร้าง "ดาบแห่งอาคาชา" เพื่อเป็นเครื่องมือนำไปสู่จุดบรรจบแห่งแร็คนาร็อค และสร้างโลกใหม่ที่ปราศจากการหลอกลวงโดยการฆ่าสิ่งที่เรียกว่า "พระเจ้า" ซึ่งเป็นแหล่งรวมห้วงจิตไร้สำนึกในปัจเจกบุคคลของมวลมนุษยชาติ

geass ในภาษาญี่ปุ่น หมายความว่า "พลังแห่งราชันย์" หรือ "เนตรปีกแดง" พลังความสามารถเหนือธรรมชาติที่คนบางคน  สามารถมอบให้กับผู้ที่ทำพันธะสัญญา ลักษณะของคนที่ได้รับพลังนี้ที่ตาจะมีสัญลักษณ์คล้ายรูปนกมีสีแดงเมื่อใช้ geass ของแต่ละคนมีความสามารถแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับพื้นฐานของนิสัยแต่ละ คนและมีอยู่ในตาข้างเดียว เมื่อใช้มาก ๆ จะทำให้พลังกล้าแกร่งขึ้นแต่ในขณะเดียวกันบางครั้งอาจไม่สามารถควบคุมพลัง ได้ แต่พลังกล้าแกร่งถึงที่สุดจะสามารถถอด "Code (รหัส)" ได้ทำให้ได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม โดยพลังนี้อาจอยู่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายทำให้กีอัสกล้าแกร่งมากขึ้น และสามารถคุยกับผู้ใช้กีอัสคนอื่นได้และสามารถมอบความตายให้กับคู่พันธะ สัญญาได้แม้จะไม่ยินยอมก็ตามที geass ทุกอันล้วนมีความสามารถและข้อจำกัดในตัวเอง (เช่นกีอัสของลูลูซใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อคนเท่านั้นและต้องมองตาอีกฝ่าย) สามารถทำให้เอาชนะใครก็ได้ หากเข้าใจในพลังกีอัสของตนก็สามารถพัฒนาพลังให้มากขึ้นดังที่ปรากฏในเรื่อง เช่นการเปลี่ยนความคิดและปณิทานของแต่ละบุคคลหรือแม้แต่ความทรงจำ

geass image
I BUILT MY SITE FOR FREE USING